คุมตัวทำแผนฯ เจ้าหน้าที่อึ้ง สารภาพฟันพ่อแล้วลากเตรียมฝัง ก่อนเอาบัตรคนจนพ่อไปจำนำ กลับมาเห็นพ่อยังไม่ตาย ฟันซ้ำให้แน่ใจ แล้วฝังก่อนหลบหนี
จากกรณี นายเป อายุ 72 ปี ถูกนายวิเชียร หรือ ตูบ อายุ 41 ปี ลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง ใช้มีดพร้าฟันศีรษะจนเสียชีวิตภายในบ้าน แล้วลากศพไปฝังอำพรางหลังบ้าน ก่อนจะหลบหนีไป โดยคาดว่าสาเหตุมาจากนายเปเอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ของทั้งตนเองและลูกไปจำนำไว้ที่ร้านค้า ใน อ.พุทไธสง ได้เงินมา 2,500 บาท แต่พ่อไม่แบ่งให้ลูก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายวิเชียร์ หรือ ตูบ อายุ 41 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุใช้มีดฟัน นายเป อายุ 72 ปี พ่อตัวเองจนเสียชีวิต แล้วเอาไปฝังอำพราง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านพัก บ้านโศกนาค หมู่ 4 ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์อยู่ข้างร้านขาย เครื่องรัดมือโยก เครื่องรัดกล่อง
การทำแผนตำรวจได้ทำอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่เข้าไปฟันพ่อที่นอนอยู่ในห้อง พ่อสะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง แล้วฟันซ้ำแบบนับไม่ถ้วน จนพ่อล้มลงแน่นิ่ง จากนั้นได้ลากพ่อไปหลังบ้านแล้วขุดหลุมเพื่อเตรียมฝัง แล้วเอามีดไปล้างในห้องน้ำ
หลังจากนั้นนายตูบ ได้เข้าไปค้นหาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของพ่อในห้อง แล้วเดินทางไปตัวอำเภอพุทไธสง ห่างจากบ้านประมาณ 5 กิโลเมตรเพื่อเอาไปจำนำกับร้านค้าแห่งหนึ่ง ได้เงินมา 2,500 บาทแล้วกลับมาที่บ้านเพื่อจะฝังพ่อต่อ
ตำรวจถึงกับอึ้ง เมื่อนายตูบ สารภาพอีกว่า ระหว่างกำลังเตรียมฝังอยู่นั้น ได้ยินเสียงพ่อเฮือกขึ้นมาอีกครั้งได้กลับไปเอามีดเล่มเดิม มาฟันพ่อซ้ำให้แน่ใจว่าเสียชีวิต แล้วเอามีดไปล้างในห้องรอบสอง ก่อนจะทำการฝังแล้วจ้างรถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านไปส่งที่ท่ารถ ส่วนบัตรคนจนเอาไปจำนำเป็นครั้งแรก สาเหตุที่รู้จักที่จำนำ เพราะชาวบ้านรู้กันทั้งหมู่บ้านว่า “เอาไปจำนำที่ไหน”
ด้าน พ.ต.อ. สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ กล่าวว่า ตั้งแต่การจับกุมและนำตัวเดินทางมา นายตูบ ให้การวกวน แต่พอจับใจความได้ว่าผู้ต้องหาเก็บกด สาเหตุที่ต้องฆ่าพ่อตัวเอง เพราะเก็บกดมานานถูกพ่อดุด่าเป็นประจำ รวมถึงชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องภายในครอบครัว กลับมานินทาตัวเอง ทั้งที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันกับตน
สำหรับบัตรคนจน นายตูบ เอาไปจำนำได้เงินมา 2,500 บาท โดยเอาบัตรไว้กับร้านค้าเป็นเวลา 7 เดือน ให้ร้านค้ารูดเดือนละ 500 ร้านค้าเอารูดสินค้าของตัวเอง มูลค่า 3,500 บาท ส่วนการดำเนินคดีกับร้านค้าเป็นหน้าที่ของตำรวจ สภ.พุทไธสง เพราะคนละพื้นที่
