20 เมษายน 2024

ผัวใจพระ เข้าแจ้งความแล้ว เดินหน้าทวงคืนเงินถูกรางวัลที่ 1 ส่วนเมียหากไม่มีที่ไป ก็อาจจะให้พักพิงในบ้าน เพื่อให้อยู่กับลูกๆ ได้

วันนี้ (19 พ.ย.) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 พ.ย.2565 พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกตุพิบูลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด เดินทางเข้าพบนายมะนิช อายุ 49 ปี ชาวบ้านคางฮุง ม.5 ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี

เพื่อติดตามความคืบหน้าของการตกเป็นข่าวถูก นางอังคนารัตน์ อายุ 45 ปีอดีตพนักงานโรงงานผลิต ตาข่ายโฟม ตาข่ายโฟมห่อผลไม้ เมียที่อยู่กินมากันมา 26 ปี หนีตามผู้ชาย ไปพร้อมกับสมุดบัญชีธนาคาร ที่มีเงินจากการถูกสลากกินแบ่ง รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พย.65 ในส่วนที่เหลือในบัญชี 5,930,000 บาท ไปด้วย

จากการพูดคุยกับ นายมะนิช เจ้าของรางวัลที่ 1 ยืนยันว่า ต้องการที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับภรรยาที่หนีไปกับผู้ชาย ซึ่งรู้เพียงแต่ชื่อว่า นายวิทยา ไม่ทราบนามสกุล และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวมาดำเนินคดี และเอาเงินมาคืน

นายมะนิช กล่าวว่า ทีแรกตนว่าจะไม่แจ้งความแล้ว เพราะเมื่อวานนี้ เมียติดต่อทางโทรศัพท์กลับมาเองว่า ขอให้ยุติการให้ข่าวและความเคลื่อนไหว โดยจะขอเวลาสัก 1-2 วัน ก็จะกลับมาบ้าน พร้อมกับเอาเงินมาคืนทั้งหมด

และยืนยันว่าไม่ได้ไปกับผู้ชาย แต่ขัดใจที่ลูกชายพูดด้วยไม่ดี และหนีไปเพราะความโกรธ ซึ่งตอนนี้เรื่องนี้ทำใจได้แล้ว จึงจะกลับมา ซึ่งตนก็เชื่อตามนั้น แต่ปรากฏว่าพอถึงวันนี้ กลับติดต่อไม่ได้อีก

นายมะนิช กล่าวอีกว่า ได้ปรึกษาทุกคนดูแล้ว มั่นใจว่าน่าจะหลอกลวงเพื่อถ่วงเวลา และประวิงเวลาไม่ยอมคืนเงิน ที่นำไปกับผู้ชายคนนั้นมากว่า จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี หลังจากลังเลมานานหลายวัน จนกระทั่งแน่ใจว่าภรรยาไม่มีความจริงใจแน่นอน

หลังแสดงเจตจำนงชัดเจนกับ พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกตุพิบูลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี จึงได้มีการนำตัวผู้เสียหาย พร้อมด้วย นายเพ็ญ พี่ชายของ นางอังคนารัตน์ ที่ร่วมมีส่วนรับรู้การนำเงินเข้าบัญชีของนางอังคนารัตน์ หลังจากไปรับเงินที่กองสลาก แล้วโอนเข้าบัญชีนางอังคนารัตน์ดังกล่าว

ทั้งสองคนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า เหตุที่เข้าบัญชีเมีย เพราะไม่มีบัญชีธนาคารของตนเอง เพราะเขียนหนังสือไปม่ค่อยได้ แม้แต่การที่เมียอ้างว่า ลายเซ็นหลังสลาก ก็เป็นลายเซ็นเมีย ก็เพราะตนเองเขียนหนังสือไม่ได้ เลยให้เมียเซ็นแทน

นายมะนิช ยืนยันว่า การโอนเงินเข้าบัญชีเมีย ไม่ได้โอนเข้าให้ด้วยความเสน่หา แต่เป็นการฝากไว้ในบัญชีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มั่นใจว่าโดยหลอกลวงแน่นอน จึงต้องการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีเพื่อเอาเงินคืนแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนหลังจากได้เงินคืนแล้ว ก็ค่อยคุยกันอีกที ซึ่งตนอาจจะถอนแจ้งความก็ได้ หากกฎหมายสามารถทำได้ เพราะเห็นแก่ที่เคยอยู่ด้วยกันมา

และหลังจากได้เงินคืน หากไม่มีที่ไป ก็อาจจะให้พักพิงในบ้าน เพื่อให้อยู่กับลูกๆ ได้ด้วยความมีมนุษยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ลูกสาวอายุ 11 ปี เรียน ป.5 คิดถึงแม่มาก จนไม่อยากเรียนต่อ แต่อาจจะไม่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแบบเดิมสักระยะ เพื่อดูใจกันก่อน

พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกตุพิบูลย์ สารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า เมื่อเป็นความต้องการของเจ้าทุกข์ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ตามความต้องการ โดยจะมีการเรียกสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 คน คือ ผู้เสียหาย พร้อมกับนายเพ็ญ พี่ชายของเมียที่เดินทางไปด้วยกันที่กองสลาก

รวมทั้ง นายเพิ่มศักดิ์ มุกพรหม คนขายสลากกินแบ่ง มาสอบสวน เพื่อที่จะสรุปสำนวนคดี แล้วจึงจะออกหมายเรียกนางอังคนารัตน์ และคนที่ก่อเหตุร่วมกัน มาดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ และหากไม่มาตามหมายเรียกก็จะขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวที่สามารถยอมความกันได้ หากมาพบพนักงานสอบสวน และตกลงกันได้ ก็สามารถที่จะถอนการแจ้งความได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งพนักงานสอบสวนฝากว่า เพื่อให้เรื่องราวยุติกันด้วย จึงควรที่จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อเจรจากันดีกว่า

Related News