25 เมษายน 2024

ห้องเช่าเหม็นคลุ้ง พังประตูเจอ 2 ศพสยอง ข้อความสุดท้าย “ฆ่าเพราะรักมาก” สามีจับได้ว่าภรรยากำลังจะหนีไปอยู่กับชายอื่น

เมื่อเวลา 18.30 น. (9 เม.ย.66) ร.ต.อ.ใจเพชร โฮ มวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเช่า แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว แบ่งเป็นห้องให้เช่าราว 8 ห้อง จากการตรวจสอบบริเวณห้องเลขที่ 3 พบมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาคละคลุ้ง ผู้ดูแลบ้านเช่า จึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดู พบเครื่องปรับอากาศเปิดทำงานอยู่แอร์เย็นฉ่ำ บนพื้นห้อง ซึ่งเป็นโถงที่นอน พบศพ น.ส.แตน อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงายเปลือยกาย มีผ้าห่ม สีขาวลายดอก คลุมทับร่างอยู่ 1 ชั้น มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ศีรษะและท้ายทอย จนกระโหลกยุบ รวม 2 แผล เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์

ภายในห้องน้ำ พบศพ นายโฉลม อายุ 55 ปี ใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกคอตัวเองกับขื่อห้องน้ำ สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงสแล็คสีดำ ศพบวมอืด จนดำไปแล้วทั้งร่าง สันนิษฐานผูกคอตัวเองเสียชีวิต ในเวลาไล่เลี่ยกัน

จากการตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือคอนทรัพย์สินแต่อย่างใด พบเพียงท่อนเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน และจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือฝ่ายชายระบุว่า “ผมจับได้ว่าแตนมีกิ๊ก 2-3 ครั้ง โทรคุยกันว่าสงกรานต์จะหนีไปอยู่ด้วยกัน ทั้งที่ผมดูแลเป็นอย่างดี แตนบอกว่าทองที่คอที่ข้อมือหายไป หลอกเอาเงินทองผมไปให้ผู้ชายคนนั้น ผมบอกว่าให้เลิกนะแต่ก็ไม่เลิก จึงตัดสินใจฆ่า เพราะว่าผมรักมากครับ ผมจึงตายตามแตนไปด้วย” เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนชาวบ้านในละแวก ดังกล่าว ทราบข้อมูลว่าทั้งคู่มาเช่าห้องพักที่นี่พักด้วยกันนานแล้ว โดยฝ่ายชายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนฝ่ายหญิงเป็นสาวโรงงานสติ๊กเกอร์ม้วนพิมพ์ลาย สติ๊กเกอร์แต๊งกิ้ว เบื้องต้นทั้งคู่ต่างเป็นหม้ายมีลูกติดด้วยกันมาแล้ว และพยายามจะสร้างครอบครัวใหม่ สันนิษฐานว่า ฝ่ายชายจับได้ว่าฝ่ายหญิงไม่ได้คบกับตนเองแค่คนเดียว จึงทำให้มีเรื่องระหองระแหงกันมาสักระยะ ก่อนพบว่าฝ่ายชายใช้ท่อนเหล็กทุบตีฝ่ายหญิงเสียชีวิต และผูกคอตายตามในที่สุด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน จึงมอบร่างผู้ตายทั้งสองให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ดำเนินการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติทั้งสองฝ่ายมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

นายสมบัติ ลูกชายคนตาย (ฝ่ายชาย) เปิดเผยว่า ผู้หญิงที่ตายในห้องกับพ่อ เป็นแม่เลี้ยงของคน โดยพ่อของตนเองมีอาชีพเป็นผู้รับเหมา แต่หยุดทำไปแล้วประมาณ 2 ปี

ส่วนเรื่องของจดหมายลาตายที่พ่อเขียนเอาไว้ ตนเองรู้มาระยะหนึ่งแล้ว และเคยเตือนตัวแม่เลี้ยง ว่า ทำอะไรก็ระวัง อย่าให้พ่อรู้ จะเกิดปัญหา แต่ก็ไม่คิดว่า แม่เลี้ยงจะมีพฤติกรรมแบบนี้ จนพ่อจับได้ แต่ยอมรับที่ผ่านมาพ่อตนรักแม่เลี้ยงมาก เมื่อหลายเดือนก่อนแม่เลี้ยงหายและขาดการติดต่อไป พ่อยังบอกตนเองว่า ถ้า 2-3 วัน แม่เลี้ยงไม่กลับมาจะไปอยู่ที่อื่น ไม่อยู่กับแม่เลี้ยงแล้ว แต่ปรากฏว่า วันที่4 แม่เลี้ยงกลับมา พ่อจึงอยู่อาศัยต่อกับพ่อตน และนับจากวันที่ แม่เลี้ยงหายไป และกลับมาอยู่กับพ่อตนอีกครั้ง ตนเองยังไม่มีโอกาสเจอ และคุยอะไรเลย เนื่องจากแม่เลี้ยงเป็นคนเงียบๆ และพยายามหลบหน้าหลบตา

และเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนเองไม่คิดด้วยช้ำ ว่า พ่อจะฆ่าแม่เลี้ยง และปลิดชีพตัวเองตายตาม ซึ่งตนก็แปลกใจ ว่าทำไมพ่อทำแบบนี้ และตั้งคำถามว่า พ่อเป็นคนมีเงิน ทำไมไม่หาใหม่ หรือเลิกแล้วไปใช้เงินที่เก็บสะสม ทำไมถึงทำแบบนี้ จากจดหมายที่พ่อเขียน จึงตรงทุกอย่าง ทั้งความรัก และการจ่าย หรือช่วยเหลือแม่เลี้ยง

ด้าน นางศิริกานต์ อายุ 49 ปี คนดูแลหอพัก เปิดเผยว่า คนตายทั้ง 2 คน เป็นผัวเมียกัน เช่าห้องมาหลายปีแล้ว ซึ่งตอนแรกๆ ที่มาอยู่ ก็ไม่เคยทะเลาะกัน รักกันดี แต่ช่วงระยะหลัง มีคนแปลกหน้า ชอบแวะเวียนมาที่ห้องเช่า แต่เข้าใจว่าเป็นพวกญาติๆ และรวมถึงพวกเจ้าหนี้ ที่ผู้ตายเป็นหนี้นอกระบบ แวะมาทวงเงิน และตามหา แต่ตนก็ไม่เอะใจ ว่า ทั้งคู่จะปิดห้องฆ่ากันตาย

โดย คนในหอพักเริ่มได้กลิ่นเหม็นมาเกือบเดือน แต่ไม่เอะใจ ว่าจะมีคนตาย เคยมาบอกแม่บ้านในหอพัก ทำนองว่าแม่บ้านมีกุญแจไหม อยากเปิดดูว่าในห้องมีอะไร แต่ก็เปิดไม่ได้ เพราะกุญแจอยู่กับคนตายทั้ง2 จนกระทั้งวันนี้ กลิ่นแรงขึ้นมาก จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไปตรวจสอบ

Related News