ทุกเทศกาลทำให้ชึ่มชื่นหัวใจมาก เซ็ตล่าสุดคอนเซ็ปต์เป็นยังไง?
เจนี่ : บอกกับพี่ช่างภาพว่าต่อไปนี้การถ่ายของเราทุกเทศกาลจะเป็นคอนเซ็ปต์ เหมือนให้มีเรื่องราวที่ไม่ใช่แค่ถ่ายภาพหรือถ่ายคอนเทนต์แล้วลงไปเพื่อความสวยงาม มันต้องมีอะไรที่รู้สึกว่าทำการบ้านมา คิดมาแล้ว
แล้วเรื่องนี้คืออะไร?
เจนี่ : แรงเงา ต้องบอกก่อนว่าพี่ช่างภาพชอบแรงเงามาก แล้วบอกกับเจนเมื่อปีที่แล้วว่าอยากให้พี่เจนี่ถ่าย มุนินทร์ มุตตา ก็เลยมาเป็นช่วงวาเลนไทน์แบบมุนินทร์ มุตตา รักกันเป็นพี่น้อง
ทำไมคนนึงขาว คนนึงไม่ขาว?
เจนี่ : จริงๆ เจนเขียนแคปชั่นให้คำเปรียบเทียบว่า ที่ผ่านมาในชีวิต เจนเจอเหตุการณ์ เจอเรื่องอะไรมาก็ตามแต่ มันก็จะเป็นตัวแทนโดน เหมือนมีปูน ป้ายสีอะไรประมาณนี้ที่แบบโดนเรื่องโดนราวอะไรมาตลอด แต่ว่าทุกวันเจนี่ก็ยังยืนยัดอยู่แบบนี้ที่เป็นคนที่ไม่ได้เลอะ
ซูมแบบนี่รีทัชหรือว่าอะไร?
เจนี่ : หน้าอกใช่ไหม ต้องบอกว่าทีมนี้ถ่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว ทุกครั้งที่ถ่าย เหมือนคนที่อยู่ข้างนอก ถามว่าครั้งนี้เจนจะถ่ายชุดอะไร อย่าถามเป็นชุดเลย เพราะพี่สไตล์ลิสไม่เคยทำเป็นชุดให้เจนเลย เอาผ้ามาห่อ เอาจะมีครีเอทีฟชุดที่จะให้ใส่ คริสต์มาสใส่แบบนี้ อันนั้นก็ไม่ใช่ชุดนะคะ เป็นการเอาผ้ามาแล้วทุกอย่างจะเย็บกับตัวเจน
แคปชั่นเหมือนมีนัยนะ?
เจนี่ : วันนี้ไม่ว่าใครก็ตามถ้าไม่สงสัยในตัวเจนี่คงจะเป็นเรื่องแปลก ไม่ว่าเจนจะทำอะไร เขียนอะไร หรทอว่าทำอะไรก็ตามในชีวิตเหมือนจะกลายเป็นนัยยะ มันจะกลายเป็นคำถาม มันจะกลายเป็นข้อสงสัยของทุกๆ คนอยู่แล้ว แต่เอาจริงๆ ประโยคแรกที่ขึ้นมาคือช่างภาพเป็นคนคนคิด คือชีวิตเขาเหมือนมีประสบการณ์ที่ไม่ดี ตัวเขาเองเคยเจอแบบนี้โดนบูลลี่ ก็เปรียบเหมือนชีวิตเจนโดนมา พี่ลองขึ้นประมาณนี้ไหม เจนก็คิดว่าเป็นคอนเซ็ปต์ที่ดีนะ เป็นคนที่ไม่ได้คิด อยากจะเขียนตามความรู้สึกในขณะนั้น แล้วเวลาเขียนอะไรไปเจนจะไม่ค่อยแก้ แต่อาจะแก้คำผิด คำถูก แต่ถ้าแก้จากความรู้สึกเลย
คำพูดของเจน แต่ละคำมีนัยยะ หรือจริงๆ คนจะควรจะลองอ่านแล้วมองลึกไปกว่ากระแสที่อยู่ตอนนี้ ให้อยู่ความเป็นตัวตนของเจนมากกว่า?
เจนี่ : เอาจริงๆ เจนไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เจนมองข้ามไป มันเป็นเรื่องราวที่ผ่านๆ มามากกว่าไม่ว่าเจนจะเจออะไรมาก็ตาม ท้ายที่สุดตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ต่อให้เราโดนอะไรมาแค่ไหนในชีวิตนี้เราอยู่ในโลงศพจะมีใครมาอยู่กับเราไหม เราก็นอนคนเดียว มันไม่ได้มีโลงคู่เลย เกิดก็เกิดมาคนเดียว ถ้าเราเป็นอะไรเราก็ไปคนเดียว
สามีว่ายังไง?
เจนี่ : ไม่มีใครกล้าว่าอะไร ตอนนี้การจะถ่ายคอนเทนต์อะไรก็ตามมันเป็นเรื่องปกติ
แล้วโนล่าล่ะว่ายังไง?
เจนี่ : อย่าให้ดู ลูกสาวเป็นอะไรที่อยู่บนหิ้ง ห้ามให้เห็นเรื่องของวงการเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดงของคุณแม่ ให้เขาโตก่อน เขาจะได้เข้าใจ
มิกซ์ว่าไง?
เจนี่ : ไม่ได้มีใครว่าอะไรเลย แม่นี่ยังไม่ว่าเลย
แต่ละชุดมันเหมือนจะโป๊มาก แต่พอดูไม่โป๊ ดูเป็นอาร์ต เป็นศิลปะ?
เจนี่ : ไม่มีหน้าอกมั้งคะ ต้องบอกก่อนว่ารูปร่างเจนสมัยนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน สมัยก่อนจะมี Baby Fat ถ้าวันนี้เจนยังมี Baby Fat มันอาจจะดูโป๊ อาจจะเนื้อ นม ไข่ แต่วันนี้พอมันลีนมันเลยดูโอเค
มีคลิปที่ไปสักการะบูชา ทำไมถึงศรัทธาพระองค์ท่าน?
เจนี่ : ต้องบอกก่อนว่าปกติไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลย ด้วยความฝรั่งมาก ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ 100% ถ้าอะไรก็ตามในชีวิตถ้าไม่เจอกับตัว ไม่เห็นกับตา ไม่ได้ยินหรือไม่ได้สัมผัสเองจะไม่มองอะไรพวกนี้เลย แต่บังเอิญเมื่อ 2 ปีเจออะไรบางอย่างที่ทำให้รู้ว่าท่านมีอยู่จริง
อะไรคือเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าท่านมีอยู่จริง?
เจนี่ : เจนก็ไปที่นาคีนี่แหละ เจนขึ้นไป อยู่เฉยๆ น้ำตาก็ไหล แล้วคนที่เจนไปด้วยเราไม่ได้สนิทกัน พูดกับตัวเองว่า เล่นละครทำไม เป็นอะไร ตรงนี้เขาไม่ได้แอคชั่น แล้วเจนหันหลังพยายามเช็ด เห้ย..เป็นอะไร หยุดได้แล้ว ก็ไม่หยุด ไหลลงมาแบบบังคับตัวเองไม่ได้ เอาเป็นว่าหลายอย่างมันไม่มีเรื่องบังเอิญ
ตอนที่น้ำตาไหล รู้สึกยังไง?
เจนี่ : วันนี้ยูอยู่ในจุดที่มันใช่นะ ยูเปิดใจรับในบางสิ่ง บางอย่างที่มันจะคอนแน็คกับยูโดยตรง ปกติเจนเป็นคนสวดมนต์ นั่งสมาธิอยู่แล้ว ต้องบอกว่าคนที่สวดมนต์ นั่งสมาธิเหมือนจิตมันจะละเอียด อะไรบางอย่างมันจะมาหาเราได้ง่าย มีทั้งแฝง ทั้งดีและไม่ดี แต่ถ้าเราควบคุมไม่ได้สิ่งที่ไม่ดีมันจะมาเติมในแก้วนั้นเยอะกว่าสิ่งที่ดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราควบคุมได้ สิ่งที่ดีมันจะอยู่เหนือสิ่งที่ไม่ดี แล้วพอวันนั้นมันมาแล้วเจนควบคุมไม่ได้ แล้วมันจะมีพลังงานแฝงอะไรบางอย่างที่มันกระทบเรา แล้วเราล้มลงไป โชคดีน้องที่ไปด้วยนั่งสมาธิก็ช่วย สวดมนต์เจนก็รู้สึกดีขึ้น เจนพยายามไปขึ้นเขานาคา ซึ่งเราแข็งแรงมาก แต่เดินไม่ขึ้น ก้าวขายังไงก็เดินไม่ขึ้น
ขึ้นถ้ำนาคีได้ แต่ขึ้นถ้ำนาคาไม่ได้?
เจนี่ : มันเหมือนเราได้รับอะไรมาแล้วเราคอนโทลไม่ได้ วันนั้นก็นอนดมยาดมอยู่ในรถตู้ คิดว่าตัวเองไม่พร้อม หรือความดันตก หรือเครียด ก็ยังไม่เชื่ออีก คือไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ เจนเหมือนกับคนทั่วไปถ้าไม่รู้สึกกับตัวก็ไม่เชื่อเด็ดขาด
